สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อสุขภาพได้ที่นี่

ผลิต ยางซิลิโคน แบบเนื้อคน เสริมภายนอกทุกส่วน

ตามขนาดที่ต้องการ


By..Krissawat Sawangkarn

Tel : 084-7663722

Fax : 02-9833645

E-Mail : v-tech2013@hotmail.co.th


Goo Beauty Search

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รอบรู้เรื่องผู้หญิง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รอบรู้เรื่องผู้หญิง แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รอบรู้เรื่องใกล้ตัว : เสื้อชั้นใน

   พูดถึงเสื้อชั้นใน หรือ Brassiere แล้ว ท่านสุภาพสตรีทุกท่านคงรู้จักกันดี ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่จะใส่โชว์เหมือนเครื่องแต่งกายอื่นๆ แต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สาวน้อยสาวใหญ่ทุกท่านให้ความเอาใจใส่กันอย่างยิ่ง การเลือกและใส่เสื้อชั้นในนั้น ก็ดูเป็นรสนิยมอย่างหนึ่ง ลองมาทำความรู้จักกับเสื้อชั้นในกันสักเล็กน้อยดีไหม
      เสื้อชั้นในนั้นได้มีการใช้กันตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ประมาณ 6 พันกว่าปีก่อนเพื่อใส่ในการออกกำลังกาย หรือ ทำให้เต้านมของสตรีดูเล็กลงคล้ายบุรุษ แต่ที่เสื้อชั้นในมีลักษณะคล้ายกับที่ใส่ในปัจจุบัน ได้เริ่มขึ้นเมื่อ 200 กว่าปีก่อน โดยช่างตัดเสื้อชาวฝรั่งเศส ซึ่งผลิตเสื้อชั้นในเป็น 2 ส่วน และต่อมา Mary Phelps Jacob ได้นำมาจดลิขสิทธิ์ และผลิตจนเป็นที่แพร่หลายในอเมริกา เสื้อชั้นในได้มีการพัฒนาทั้งรูปแบบ รูปทรง และวัสดุ มาเรื่อยๆ ตามสมัยนิยมจนเป็นลักษณะที่เห็นกันในปัจจุบัน

      ประโยชน์ของการใส่เสื้อชั้นในสตรีนั้น มีทั้งในด้านการแพทย์และทางสังคม ในทางการแพทย์นั้น เสื้อชั้นในจะสามารถช่วยพยุงเต้านมที่คล้อยตัวหรือหย่อนให้กระชับและลดการแกว่งตัวระหว่างการเคลื่อนไหว ทำให้ลดความไม่สบายตัวหรือ อาการเจ็บที่เกิดจากการเคลื่อนไหวมากเกินไปของเต้านม ส่วนจะช่วยป้องกันการคล้อยตัวหรือการหย่อนยานของเต้านมนั้นยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ในทางสังคมนั้น เสื้อชั้นในช่วยทำให้เต้านมของสตรีดูสวยงาม ดูดี และ เป็นแรงดึงดูดความสนใจมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ทำให้เจ้าของมีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้น เสื้อชั้นในจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแต่งกายที่ได้รับการเอาใจใส่ และมีการพัฒนาเป็นเสื้อชั้นในชนิดต่างๆให้เหมาะสมกับกิจกรรม และ โอกาส เช่น เสื้อชั้นในสำหรับใส่เล่นกีฬา สำหรับงานราตรี สำหรับใส่นอน สำหรับวัยรุ่น สำหรับคนตั้งครรภ์ ฯลฯ

      การเลือกเสื้อชั้นในให้เหมาะสมนั้น มีปัจจัยที่ควรคำนึงถึง นอกจากเรื่องขนาด cup size และ เนื้อผ้าแล้ว ยังต้องดูรูปทรงของเสื้อชั้นใน เพราะในแต่ละแบบนั้น ได้รับการออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ทั้งแบบเต็มตัว ไร้สาย เสริมทรงและดันทรง ฯลฯ

     หลักทั่วไป คือ
ใส่แล้วต้องไม่คับหรือรัดจนแน่นเกิน แนวเสื้อชั้นในรอบตัวควรอยู่ในแนวราบเสมอกันไม่ถูกรั้งให้สูงขึ้น เนื้อเต้านมต้องไม่ถูกกดทับ หรือล้นออกทางด้านล่างและ ด้านข้าง ส่วนทางด้านบนของเสื้อชั้นในควรจะราบไปกับเนื้อเต้านมเมื่อสวมใส่
      นอกจากนี้ ขนาดของเต้านมยังมีการเปลี่ยนแปลงตามอายุ น้ำหนักตัว และ รอบประจำเดือน ดังนั้น อาจต้องมีเปลี่ยนเสื้อชั้นในให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไป

ที่มา .. รพ.ศิริราช

3 สมุนไพร ช่วยบำบัดอาการปวดประจำเดือน

3 สมุนไพร ช่วยบำบัดอาการปวดประจำเดือน

ปวดประจำเดือน


3 สมุนไพร ช่วยบำบัดอาการปวดประจำเดือน (Woman's Story)

          สาว ๆ ที่มักพึ่งยาแก้ปวดในการช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ ต่อนี้ไปไม่จำเป็นอีกแล้วค่ะ เพียงคุณหันมาทานสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดที่นำมาฝากกันในวันนี้ อาการปวดจำเดือนก็จะหายไปแล้วค่ะ

ตังกุย

          มีผลช่วยในการดูแลสุขภาพของมดลูกผู้หญิงเราโดยตรงทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 และมีกรดโฟลิกสูง ซึ่งช่วยบำรุงเลือดได้อย่างดี ถ้าหากทานเป็นประจำจะช่วยลดอาการปวดท้อง ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ และช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนของผู้หญิงได้อีกด้วย

ใบตำลึง

          มีแมกนีเซียม และธาตุเหล็ก ที่ช่วยไม่ปวดเกร็งกล้ามเนื้อหรือลดอาการตะคริว จึงมีส่วนช่วยในการลดอาการปวดเกร็งช่วงท้องได้ด้วย นอกจากนี้แมกนีเซียมยังพบได้อีกในเนื้อสัตว์ และตับหมู

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส 

          ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสจะมีกรดไขมันที่ชื่อว่า กรดแกมม่า ไลโนเลนิก ซึ่งมีคุณสมบัติลดหรือต้านการอักเสบ ช่วยรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง แถมยังช่วยลดอาการปวดเกร็งท้อง ลดการปวดหน้าอก และอาการตัวบวมช่วงก่อนหรือช่วงมีประจำเดือนได้

          จริง ๆ การทานยาแก้ปวดต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายวัน ไม่เป็นผลดีต่อร่างกายคุณนะคะ ถึงแม้ว่าจะสะดวกรวดเร็ว แต่ว่าวิธีทางธรรมชาติก็น่าจะดีกว่า และไม่ผลข้างเคียงใด ๆ ตามมาด้วยค่ะ

ข้อมูลจาก women, s

วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทาครีม-ยิงเลเซอร์ เสก "หัวนมดำ" เป็นจุกชมพูได้จริงหรือ

นอกจากอกไข่ดาวแล้ว "หัวนมดำ" ยังเป็นปัญหาหนักอกหนักใจของคุณผู้หญิง เพราะทุกคนล้วนใฝ่ฝันอยากได้สีชมพูมาครอบครองพื้นที่บนยอดทรวงอก แต่ก็มีผู้ชายฉลาดน้อยบางคนเห็นแฟนตนเองหัวนมดำกลับคิดว่าผ่านศึกมาโชกโชนเจ็ดย่านน้ำซะงั้น ทั้งที่หนูไม่ได้ตั้งใจดำ หนูไม่ได้ตั้งใจด้ำ! แต่มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดหรอกย่ะ!

ไม่ต้องกังวลใจไปใย สมัยนี้มีสารพัดครีมอวดสรรพคุณเสกสรรค์ปั้นแต่งจุกให้ชมพูได้ เป็นแค่โฆษณาอวดอ้าง เรื่องจริงหรือลวงโลก ผลข้างเคียงอาจยิ่งใหญ่กว่าที่คิด แล้วถ้าขี้เกียจทาล่ะ เพราะทาไปเกือบสิบกระปุกยังดำคล้ำอยู่เหมือนเดิม งั้นตัวช่วยสุดท้าย ไปหาหมอเลเซอร์ เหอะ!

อืม หากเลเซอร์ไปจะคงความชมพูได้นานคุ้มกับเงินที่เสียไปมั้ยคะ พญ.พรภุชงค์ เลาห์เกริกเกียรติ แพทย์ผิวหนัง จากโรงพยาบาลพญาไท 3 มีคำตอบค่ะ

หัวนมคล้ำเกิดจาก?

"โดยพื้นฐานเป็นเรื่องของสีผิว แต่ละคนสีผิวไม่เหมือนกัน ฉะนั้นคนสีผิวเข้ม ตำแหน่งหัวนมก็จะมีสีคล้ำได้ เหมือนริมฝีปาก คนผิวขาวริมฝีปากจะค่อนข้างชมพู คนผิวคล้ำริมฝีปากจะสีคล้ำ อันนี้เป็นธรรมชาติอยู่แล้ว

ภาวะฮอร์โมน เช่น ช่วงตั้งครรภ์สังเกตสีผิวจะคล้ำขึ้น จะพบเห็นได้ว่าสีผิวจะเข้มขึ้นบริเวณคอ รวมทั้งรักแร้ ขาหนีบ สีจะคล้ำขึ้น รวมทั้งหัวนมจะมีสีคล้ำขึ้น ส่วนเรื่องของการแพ้ การระคายเคือง ก็อาจจะมีปัจจัยทำให้สีผิวเข้มขึ้นมาได้" คุณหมอพรภุชงค์กล่าว

ใช้ครีมทาหัวนม ช่วยไม่ได้ 100 %

ครีมช่วยได้เล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ควรระวัง! ส่วนผสมจำพวกลอกฝ้าให้ดี

"ครีมทาหัวนมจะเป็นเหมือนครีมกลุ่มไวท์เทนนิ่ง (Whitening) แต่สารที่ใช้ ไม่ควรผสมสาร AHA รวมทั้งกรดวิตามินเอ เนื่องจากมีฤทธิ์ของการลอกผิวอาจมีการลอกมากจนเกิดการระคายเคืองได้ ถ้าจะซื้อตามร้านเสริมสวย หรืออินเตอร์เน็ตก็ควรต้องระวังให้มาก เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวอาจจะไม่ผ่าน อย.

บางทีอาจมีพวกปรอท สารไฮโดรควิโนน(Hydroquinone) ซึ่งเป็นยารักษาฝ้า" คุณหมอขอเตือน แถมย้ำด้วยว่า การที่จะทาครีมเพื่อทำให้หัวนมมีสีชมพูเป็นไปได้ยาก
ฟอกสบู่บริเวณหัวนมมากๆ สาเหตุหนึ่งของความคล้ำ

"คงต้องดูแลป้องกันไม่ให้มีการระคายเคืองมาก ต้องระวังเรื่องการอาบน้ำ บางทีฟอกสบู่มากไป จะทำให้ผิวแห้ง หรือบางคนที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวตรงนี้อาจจะเกิดการแพ้ได้ง่าย ก็อาจจะเกิดรอยดำคล้ำได้ง่าย หลังอาบน้ำควรทาครีมบำรุงตามปกติ”

หรือแบ่งปันครีมทาหน้าเพื่อความกระจ่างใสมาทาถูหัวนมได้เช่นกันซึ่งจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อใช้

เลเซอร์เสกจุกชมพูเพียงแค่ครึ่งปี

หากใช้ครีมทาจนท้อแท้ เมื่อไหร่จะชมพูสักที ชักนานเกินไป ล่อไปหลายกระปุกแล้ว ความคล้ำยังไม่เลือนหายไปจากยอดปทุมถันชั้นสักที เฮ้อ! เลเซอร์ช่วยคุณได้แต่ไม่ถาวร

"หากใช้ครีมแล้วได้ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ หมออาจมีการใช้เลเซอร์ช่วยบ้าง หัวนมสีคล้ำเราใช้เลเซอร์ช่วยได้ เช่นเดียวกับริมฝีปากคล้ำ จะเป็นการลอกผิวบางๆ ออกไป แต่ไม่ชมพูถาวร ได้ผลแค่ชั่วคราว เพราะผิวจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา"

แนวทางการรักษาด้วยการยิงเลเซอร์เช่นเดียวกับการรักษา “กระ”

“หมอใช้การยิงเลเซอร์ด้วย Q-switched Nd-YAG Laser คือ ยิงขึ้นสะเก็ดแผลเล็กๆ จะมีสะเก็ดแผลอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์

ก่อนการทำเลเซอร์ต้องใส่ยาชา ทำเสร็จแล้วอาจมีอาการเจ็บแสบ และจะเป็นสะเก็ดแผลตรงลานหัวนมที่เรายิงเลเซอร์ หลังจากนั้นควรดูแลเรื่องสะเก็ดแผล การดูแลค่อนข้างยุ่งยากนิดหนึ่ง เพราะตำแหน่งนี้บอบบาง”

ก่อนการยิงเลเซอร์ คุณหมอพรภุชงค์ย้ำข้อเท็จจริงให้ทราบว่า ค่าใช้จ่ายในการยิงเลเซอร์จะสูงกว่าการซื้อครีมมาทาเองแถมครั้งแรกอาจไม่ได้ผล

“โดยทั่วไปหมอไม่ได้เลเซอร์ตรงส่วนปลายหัวนม จะเลเซอร์แค่ลานหัวนมเท่านั้น เราต้องบอกข้อมูลให้คนไข้รับทราบก่อนว่า การยิงเลเซอร์ไปอาจะช่วยไม่ได้มากนัก มีค่าใช้จ่ายประมาณ 2,500-3,000 บาทต่อการยิงเลเซอร์ 1 ครั้ง สีของหัวนมจะอ่อนลงชั่วคราวและจะอยู่แค่ประมาณ 4-5 เดือน ไม่ถึงปีแน่นอน บางครั้งยิงไปครั้งเดียวอาจไม่ให้สีชมพูต้องมาทำอีก เพราะผิวต้องมีการเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติของสีผิวเราเอง เหมือนเราทำเลเซอร์หน้า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงต้องกลับมาทำซ้ำ" คุณหมอชี้แจง

ทาครีม-ยิงเลเซอร์ไม่ทันใจ สักสีเลยดีมั้ย?

"ริมฝีปากสีคล้ำเรายังทาลิปสติกได้ แต่หัวนมทาไม่ได้ อีกทางเลือกหนึ่งของบางคน คือ การสักสี แต่สีที่ได้ก็จะไม่ธรรมชาติ” คุณหมอชี้แจงการสักสี เตือนความเสี่ยงของการติดเชื้อ ชั่งใจคิดสักนิดก่อนลงเข็มสัก

“โดยทั่วไปเราก็ถือว่าการสักไม่มีประโยชน์ เป็นการตบแต่ง แต่ต้องคิดด้วยว่า หากเมื่อไหร่อยากลบรอยสักขึ้นมา จะแก้ยากมาก รอยสักไม่ได้แก้ด้วยเลเซอร์เพียงครั้งเดียวหาย ต้องทำหลายรอบ หรือถ้าสักไม่ดีอาจเกิดการติดเชื้ออีก ทางการแพทย์ไม่มีใครสนับสนุนเรื่องของการสักอยู่แล้ว ยกเว้นบางคนมีปัญหาเรื่องของอุบัติเหตุ อาจจะต้องมีการสักสีช่วย แต่ในส่วนของหัวนม หมอไม่แนะนำอยู่แล้ว"

*หมอขอฝาก
จุกชมพูแค่ภาพลวงตา ยอมรับตัวตนดีกว่า
คุณหมอ ชี้การใช้ครีมและเลเซอร์ ได้ผลแค่ชั่วครู่ชั่วยาม
"ในการเลือกซื้อครีมทาหัวนมควรระวังครีมหรือยาที่ไม่ผ่านอย. โดยเฉพาะที่ซื้อขายตามอินเตอร์เน็ต ร้านเสริมสวย เพราะไม่สามารถหาคนรับผิดชอบได้ ในครีมอาจจะมีส่วนผสมของไฮโดรควิโนน ซึ่งเป็นยารักษาฝ้าอาจจะทำให้เกิดปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ

หรือถ้าใส่ส่วนผสมที่เป็นสารสเตียรอยด์ก็จะทำให้เกิดผิวบาง และยิ่งถ้าใส่สารปรอทที่เป็นสารต้องห้ามก็อาจจะเกิดอันตราย มีผื่นแพ้ ผิวคล้ำขึ้นได้หรือถ้าผสมกรดวิตามินเอก็จะเกิดการระคายเคือง ผิวแห้งลอก ผลิตภัณฑ์หรือครีมทาที่ควรจะต้องระวัง เวลาเห็นตลับที่บรรจุไม่มีชื่อ ไม่มีเลขที่อย. ไม่มีแหล่งผลิต อาจจะมีสารที่เป็นอันตรายได้

การยิงเลเซอร์เป็นการแก้ปัญหาได้ชั่วคราว การยิงเลเซอร์ไปแต่ละครั้งก็มีปัญหา เรื่องของการเกิดสะเก็ด การดูแลสะเก็ดหากหลุดเร็วอาจกลายเป็นรอยด่าง รอยดำหลังยิงอีกแต่ก็เป็นทางเลือกหนึ่งในกรณีที่คนไข้อาจใช้ยาแล้วไม่ดีขึ้น

เราก็ต้องพูดกลางๆ ว่าไม่ได้เป็นผลที่แน่นอน 100% ว่าผิวจะต้องเป็นสีชมพูเลยในการทำครั้งเดียว บางทีอาจจะต้องทำหลายครั้งก็ได้ ประมาณ 2-3 ครั้ง โดยเฉลี่ยขึ้นอยู่กับความพอใจทิ้งระยะห่างเป็นเดือนหากจะมาเลเซอร์ใหม่ อาจจะมีความพอใจในระดับหนึ่งแต่ไม่ใช่ว่าจนถึงที่สุด” คุณหมอเตือนปิดท้าย

บทความที่ได้รับความนิยม